Sunday, November 25, 2007

ปรากฏการณ์โลกร้อน

ปรากฏการณ์โลกร้อน หรือ ภาวะโลกร้อน (global warming) คือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของผิวโลกและผืนมหาสมุทรสูงขึ้น โดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศ
ปรากฏการณ์โลกร้อนถือเป็นผลพวงจากการมีก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นในบรรยากาศ ซึ่งเป็นสาเหตุให้รังสีความร้อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศเข้ามาถูกกักไว้ในโลกโดยไม่สามารถสะท้อนกลับออกไปได้ หรือที่เรียกว่าภาวะเรือนกระจก การเกิดขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากกระบวนการเผาไหม้ของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล อาทิ น้ำมันปิโตรเลียม ถ่านหิน เป็นต้น ทั้งจากกิจกรรมการขนส่งและการผลิตกระแสไฟฟ้า แนวทางหนึ่งของการลดปริมาณการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คือ ลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น อาทิ พลังงานชีวมวล พลังงานน้ำ พลังลม พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง พลังงานนิวเคลียร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีมารองรับ ซึ่งปัจจุบันการใช้พลังงานหมุนเวียนบางประเภทยังมีต้นทุนที่แพงกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานจากเซลล์เชื้อเพลิง) มีกระแสต่อต้านจากมวลชนเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (เช่น พลังงานนิวเคลียร์ พลังงานน้ำจากการสร้างเขื่อน) และปัญหาความเพียงพอของวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิง (เช่น พลังงานชีวมวล ซึ่งใช้วัตถุดิบร่วมกับภาคเกษตร)

สาเหตุ
มหันตภัยร้ายที่กำลังคุกคามโลกอยู่ขณะนี้ คือ
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ปริมาณมหาศาลที่มนุษย์เป็นผู้ก่อ ถูกปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกหนาขึ้นเท่าไร ก็จะเป็นตัวการกักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์ไว้ไม่ให้คายออกไปสู่บรรยากาศ ซึ่งมีต้นเหตุจากการที่มนุษย์ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่งและ การผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนั้น มนุษย์เรายังได้เพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัสออกไซด์และคลอโรฟลูโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปอีกด้วยพร้อมๆกับการที่เราตัดและทำลายป่าไม้จำนวนมหาศาล ทำให้กลไกในการดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศถูกลดทอนประสิทธิภาพลง และได้หวนกลับมาสู่เราในลักษณะของภาวะโลกร้อน ก็จะส่งผลให้อุณหภูมิของบรรยากาศโลก สูงขึ้นจนถึงระดับอันตรายผืนน้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือและธารน้ำแข็งบนภูเขาทั้งหมดทั่วโลกค่อยๆ ละลายลงเรื่อยๆ และอาจจะทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 20 ฟุต

ผลกระทบ และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะตามมา

ต่อสภาพภูมิอากาศ
สภาพอากาศแปรปรวนมากยิ่งขึ้น
ความชื้นในอากาศเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยการระเหยของน้ำที่มากขึ้น
ความไม่มั่นคงของอุณหภูมิ

ต่อทะเลและมหาสมุทร
ธารน้ำแข็งและน้ำแข็งตามทั่วโลกละลาย
น้ำทะเลสูงขึ้น
อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงขึ้น
การเปลี่ยนสภาวะของน้ำเป็นกรด
การหยุดไหลของกระแสน้ำอุ่น

ต่อมนุษย์
เกิดการขาดแคลนน้ำดื่ม
เกิดการอพยพย้ายที่อยู่อาศัยเนื่องจากโดนน้ำท่วม
เกิดโรคร้ายเพิ่มขึ้น

ตัวอย่างผลกระทบที่เกิดขึ้น

สภาพภูมิอากาศ
ปี 2004 บราซิลซึ่งตั้งอยู่บริเวณส่วนใต้ของมหาสุมุทรแอตแลนติกถูกถล่มด้วยพายุเฮอร์ริเคนครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันมาตลอดว่า "เป็นไปไม่ได้ที่เฮอร์ริเคนจะก่อตัวขึ้นในส่วนใต้ของมหาสุมุทรแอตแลนติก"
ปี 2005 สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญกับพายุเฮอร์ริเคนถึง 27 ลูกซึ่งรวมถึงเฮอร์ริเคนแคทรีนาที่สร้างความเสียหายอย่างหนักให้เมืองนิวออร์ลีนส์ ในขณะที่ญี่ปุ่นถูกถล่มด้วยพายุไต้ฝุ่นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 10 ลูก จากเดิมที่มีสถิติสูงสุดเพียง 7 ลูกต่อปีเท่านั้น
ปี 2006 ออสเตรเลียถูกพายุไซโคลนระดับ 5 ซึ่งมีกำลังมหาศาลเข้าถล่มหลายลูก โดยเฉพาะไซโคลนโมนิกาที่วัดได้ว่าเป็นไซโคลนที่มีกำลังแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยไซโคลนลูกนี้มีกำลังมากกว่าเฮอร์ริเคนแคทรีนาเสียอีก

สภาพภูมิประเทศ

แหล่งน้ำ
ทะเลสาบชาด อดีตทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 6 ของโลก แหล่งน้ำกินน้ำใช้ของประชาชนในประเทศชาด ไนจีเรีย แคเมอรูนและไนเจอร์ ภายในเวลาเพียง 40 ปี ทะเลสาบแห่งนี้ ต้องประสบกับการเหือดแห้งของน้ำในทะเลสาบอย่างรุนแรง จนกระทบต่อชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่รอบทะเลสาบอย่างรุนแรง

มนุษย์

การแก้ปัญหา
ใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ ไม่กินพลังงานไฟฟ้า
ใช้หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงานได้ 40%
ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า
ควบคุมการเกิดของประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้ต้องใช้พลังงานมากขึ้น
แยกขยะ นำของเก่ามาใช้ใหม่ได้
ใช้รถยนต์ประหยัดพลังงาน

ดูเพิ่ม
คอนเสิร์ตไลฟ์เอิร์ธ

อ้างอิง
คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศแห่งสหประชาชาติ (อังกฤษ)
Whyworldhot.com - หยุด! ภาวะโลกร้อน